21 สิงหาคม 2552

การท้าทายในแผ่นดินใหญ่

ชาโลม

สรรเสริญพระเจ้า!

รายงานครั้งสุดท้ายตั้งแต่เมื่อ 4 - 5 เดือนที่แล้วก่อนที่พวกเราจะเดินทางไปกระทำพันธกิจที่ประเทศจีน พวกเราคิดถึงพวกท่านทุกๆคน! ในขณะที่พวกเราอยู่ที่นั่น ข้าพเจ้าไม่สามารถเขียนรายงานอะไรได้เลยเพราะว่าทางรัฐบาลจีนจะตรวจสอบอีเมล์ทุกฉบับ รวมถึงตรวจเช็คการสื่อสารทางมือถือด้วย ในกลางเดือนกรกฎาคม 2552 ทางรัฐบาลจีนได้ทำการบล็อคเว็ปไซด์ใหญ่ เช่น Facebook, บล็อคต่างๆ, เว็ปไซด์เกี่ยวกับด้านศาสนา, company proxies ฯลฯ พวกเรารู้สึกขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ได้ทรงปกป้องคุ้มครองพวกเรา ในขณะที่อยู่ที่ประเทศจีนนั้น พระเจ้าก็ได้บอกกับพวกเราว่าให้เดินทางออกจากประเทศจีนในวันที่ 23 เดือนกรกฎาคม 2552 ถ้าพวกเราไม่ได้เดินทางออกมา และยังคงกลับไปยังจังหวัดที่พวกเราได้ไปมาเมื่อครั้งที่เราเข้าเมืองจีนครั้งแรก (คือถ้าพวกเราไม่เชื่อฟังการทรงนำของพระเจ้า) พวกเราอาจจะถูกจับกุม หรือถูกเนรเทศออกไป โดยผู้มีอำนาจของที่นั่นได้มาเตือนหลายครั้งแล้ว ซึ่งพวกเราจึงตัดสินใจที่จะไม่เขียนอะไรเกี่ยวกับพันธกิจของพวกเราที่นั่น และพวกเรายังคงวางแผนที่จะกลับไปที่นั่นอีกครั้งหนึ่ง …เหมือนกับบคำพูดของ Arnold Schwarzenegger ในหนังเรื่อง Raw Deal “เราจะกลับมาอีกครั้ง!”

เมื่อพวกเราเดินทางไปถึงมาเก๊าท์ในวันที่ 16เมษายน 2552 เพื่อนของข้าพเจ้าคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่มาเก๊าท์ได้อนุญาติให้พวกเราไปพักที่คอนโดมิเนียมของเขา ขอบคุณพระเจ้า! พวกเราอยู่ที่นั่นหนึ่งอาทิตย์ก็เลยได้มีโอกาสไปสามัคคีธรรมร่วมกันที่ Oasis International Church ข้าพเจ้าได้แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับพันธกิจในต่างแดน แต่จุดมุ่งหมายของพวกเราอยู่ที่แผ่นดินใหญ่ มันเป็นโอกาสดีมากที่พวกเราได้มาสามัคคีธรรมร่วมกัน และพวกเราได้เข้าใจถึงการทำพันธกิจในแผ่นดินใหญ่มากขึ้น ใน 7 วันที่พวกเราอยู่ในมาเก๊าท์ พวกเราได้พบกับศิษยาภิบาลจากบราซิล (ICA Church) และพวกเรามาอธิษฐานร่วมกัน อย่างไรก็ดี ข้าพเจ้ารู้สึกถึงพลังอำนาจของซาตานที่ค่อนข้างจะแรงมากที่นั่น เพราะว่าเป็นเมืองคาสิโน และเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของตึกต่างๆก็ได้เชื่อมโยงเข้ากับหนังสือวิวรณ์ในพระคัมภีร์ด้วย ขอให้พวกเราที่จะมาร่วมมือกันและอธิษฐานเพื่อให้พลังของซาตานในเมืองนี้มันอ่อนกำลังลง พระเยซูคริสต์เจ้าเท่านั้นที่จะเป็นผู้ชนะ...ฮาเลลูยา!






ในขณะเดียวกัน ข้าพเจ้าได้งานในตำแหน่งครูสอนวิชาธุรกิจที่วิทยาลัยในเมืองฮาร์บิน มลฑลฮาลองจัย และได้ตกลงเซ็นต์สัญญาทำงานกันเรียบร้อยแล้ว และเมื่อข้าพเจ้าตกลงที่จะทำงาน ข้าพเจ้าก็รู้ว่าตัวเองจะไม่มีเวลามากนักให้กับงานของพระเจ้า หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ ข้าพเจ้ารู้สึกถึงความอ่อนแอทางจิตวิญญาณและก็ได้ถามกับพระเจ้าว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้าพเจ้า พระเจ้าได้นำข้าพเจ้ากลับไปในช่วงเวลาเมื่อตอนที่พระองค์ได้บอกให้ข้าพเจ้าลาออกจากงานและให้มารับใช้พระองค์เท่านั้น ในเวลานั้น ข้าพเจ้าได้ถวายตัวทั้งชีวิตให้แก่พระองค์ และวันเวลาต่างนั้นมันมาใกล้แล้ว ด้วยเหตุนี้ สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้ข้าพเจ้าตระหนักว่า พระเจ้าต้องการให้ข้าพเจ้ากระทำตามคำสั่งของพระองค์ มันไม่ง่ายเลยในการทำงานโดยปราศจากเงินเดือนหรือการสนับสนุนอย่างจริงจัง และนอกจากนันยังต้องเลี้ยงดูครอบครัวด้วย แต่ข้าพเจ้าจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจที่จะไม่รับงานในตำแหน่งนั้น แต่ว่าก่อนที่ข้าพเจ้าจะได้ไปเริ่มงานที่นั่นนั้น ทางวิทยาลัยก็ได้ทำการยกเลิกสัญญาว่าจ้างไปก่อนหน้านี้แล้ว! เมื่อพระเจ้าต้องการให้พวกเราทำอะไร พวกเราจำเป็นที่จะต้องทำตาม!

ในวันที่ 24 เมษายน 2552 พวกเราออกเดินทางจากมาเก๊าท์ไปที่กวางเจา มลฑลกวางตุ้ง และใช้เวลาอยู่กับเพื่อนชาวแอฟริกาหนึ่งวัน(บราเดอร์ Desmond)ผู้ทำธุรกิจด้านเสื้อผ้าที่นั้น และในวันต่อมาพวกเราก็เดินทางออกจากกวางเจาไปที่ เมืองเซี่ยงฟาน มลฑลหูเป่ย ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงจัดเตรียมที่พักในอพาทเม้นท์แห่งหนึ่งให้แก่พวกเรา!




ในขณะที่พวกเราอยู่ในเซี่ยงฟาน พวกเราได้ค้นพบสิ่งที่แตกต่างจากประเทศอื่นๆที่พวกเราได้เคยไปมา คือ คนขับรถเมล์ เขาจะดับเครื่องยนต์ก่อนที่รถจะไปถึงป้ายรถเมล์ และปล่อยให้รถไหลไปเรื่อยๆจนไปหยุดที่ป้าย หลังจากนั้นคือ เมื่อรับผู้โดยสารจากป้ายเรียบร้อยแล้วคนขับรถก็จะสตาร์ทรถอีกครั้งแล้วก็ขับรถออกไป ส่วนเด็กเล็กๆนั้น เขาจะใส่กางเกงที่ผ่าเป้ายาวตลอดไปถึงก้นเพื่อให้มีลมเข้า พวกเราเป็นห่วงและคิดว่าเมื่อถึงฤดูหนาวเด็กๆคงจะทนไม่ไหวเพราะเย็น ส่วนผู้สูงอายุก็จะนั่งเล่นไพ่นกกระจอกกันข้างถนนซึ่งตำรวจก็ไม่จับพวกเขา และเมื่อเราเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เมืองจีน เราจะได้เห็นผักต่างๆซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าปกติ เพราะว่าดินและปุ๋ยสำหรับการเพาะปลูกที่นั่นดีมาก

พวกเรามีความยากลำบากเกี่ยวกับเรื่องวีซ่าของประเทศจีน และพวกเราจะต้องเดินทางออกนอกประเทศจีนทุกๆ 30 วัน ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วพวกเราก็จะอาศัยเกินเวลาที่กำหนดและต้องถูกปรับเป็นเงิน 500 หยวน (2,500 บาท)/ วัน ถึงแม้ว่าพวกเราจะมีวีซ่า 6 เดือน multiple ก็ตาม แต่พวกเราก็ต้องเดินทางเข้าออกประเทศจีนทุกๆ 30 วัน

ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2552 พวกเราได้ออกเดินทางตรงจากเมืองเซี่ยงฟานไปยังประเทศฮ่องกงโดยผ่านทางกวางเจา ตั๋วรถไฟจากเซี่ยงฟานไปกวางเจาราคา 330 หยวน (1,650 บาท)/ คน เมื่อพวกเราไปถึงฮ่องกง พวกเราได้อยู่ที่นั่นเป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ห้องพักที่นั่นเล็กมาก (ขนาดเท่ากับรถเก๋งธรรมดาหนึ่งคัน) และห้องพักราคาคืนละ 160 ฮ่องกงดอลล่าห์ (800 บาท)/ คืน ราคาของทุกอย่างในฮ่องกงแพงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ารถและค่าอาหาร




ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2552 พวกเรากลับไปที่กวางเจา และใช้เวลาสั้นๆกับซิสเตอร์ Helen (เธอมาจากมลฑลเหอเป่ย) และหลังจากนั้นสองวัน พวกเราก็เดินทางไปที่ปักกิ่งและต่อรถไปที่ทังกู้ มลฑลเทียนจิน พวกเราไปพักอยู่กับอดีตข้าราชการที่นั่น ท่านให้พวกเราพักห้องชั้นบนสุด ขอบคุณพระเจ้าอีกครั้ง! พวกเราได้พบกับบราเดอร์ Stone จากวูฮ่าน (มลฑลหูเป่ย) ที่นั่น และข้าพเจ้าได้ใช้เวลาในการเป็นที่ปรึกษาให้กับพี่น้องที่อเมริกาและสหราชอาณาจักรด้วยโดยผ่านการคุยกันแบบออนไลน์ และนำพวกเขากลับมามีความเชื่ออีกครั้ง ภรรยาของข้าพเจ้าบอกข้าพเจ้าว่าให้พักผ่อนบ้าง แต่ข้าพเจ้าทำไม่ได้เพราะว่ามีพี่น้องหลายๆท่านที่กำลังต้องการการช่วยเหลือ ที่นั่นพระอาทิตย์ขึ้นตอนตีสี่ ข้าพเจ้าก็ยังไม่ได้นอนเพราะว่าต้องเป็นที่ปรีกษาให้แก่พวกเขา “พระเจ้าของเราทรงพระกรุณาแค่ไหน พระองค์ทรงทำงาน 24 ชั่วโมงต่อวัน”




พวกเราไปที่ปักกิ่งในวันที่ 2 - 5 มิถุนายน 2552 มันเป็นโอกาสดีมากที่พวกเราได้ไปพบและได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว Bryon และเพื่อนๆของเขา พวกเราทึ่งมากที่ได้นั่งรถไฟใต้ดิน Mass Rapid Transit (MRT) ราคาถูกมากเพียงแค่ 2 หยวน (10 บาท)/ ครั้ง ตลอดเส้นทางทุกระยะ และเมื่อเราไปถึงที่นั่น พวกเขาได้เลี้ยงอาหารขึ้นที่ชื่อในโลกคือเป็ดปักกิ่งให้แก่พวกเรา พวกเราขอยกมือขึ้นเพื่อถวายการสรรเสริญแด่พระเจ้า พระเจ้าของเราทรงเป็นพระเจ้าที่แสนดีตลอดเวลา!

พวกเราไม่สามารถอยู่ที่ทังกู้ได้นาน พวกเราจะต้องออกเดินทางกลับไปที่ฮ่องกงอีกครั้งในวันที่ 15 มิถุนายน 2552 เพื่อประทับตราวีซ่าอีกครั้ง และหลังจากนั้นก็จะกลับไปที่กวางเจา พวกเราได้ใช้เวลาที่กวางเจากับบราเดอร์ Desmond และซิสเตอร์ Helen ประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่พวกเราจะเดินทางกลับมาที่กัวลาลัมเปอร์

เมื่อตอนที่พวกเราอยู่ที่ทังกู้ ภรรยาข้าพเจ้าบอกว่า พระเจ้าต้องการให้พวกเรากลับไปที่มาเลเซีย แต่ข้าพเจ้าปฏิเสธที่จะกลับ จนกระทั่งพวกเราอยู่ที่กวางเจา ข้าพเจ้ารู้สึกต่อต้านตนเองและยังคงต้องการที่จะกลับไปเยี่ยมพี่น้องที่เซี่ยงฟาน แต่ในที่สุด พวกเราก็ตัดสินใจกลับไปที่มาเลเซียเพื่อหยุดพักสักระยะหนึ่งก่อน

ขออวยพระด้วยความรักของพระคริสต์

Rev. Steve Peter H S Kok and Sister Jenny P Kok