06 มกราคม 2553

ชุมชนในฟาร์ม

ชาโลม

Shanah Tovah (ในภาษาฮีบรู) แปลว่าสวัสดี!

ในสัปดาห์นี้ เจนและข้าพเจ้าจะเดินทางกลับไปกวางเจาโดยสายการบินแอร์เอเชีย และพวกเราจะพักอยู่ที่นั่นสองวัน ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังคุณหมิงเพื่อไปทำงานในฟาร์มและรับใช้พี่น้องในชุมชนที่นั่นประมาณหนึ่งปี

“สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงใช้เรามาฉันใด เราก็ใช้ท่านทั้งหลายไปฉันนั้น" (ยอห์น 20 ข้อ 21).

มันไม่ง่ายสำหรับพวกเราที่จะใช้ชีวิตที่นั่น เพราะพื้นฐานของพวกเรานั้นเกิดและเติบโตขึ้นในเมือง แต่ตอนนี้พวกเราจะต้องไปอาศัยอยู่ในหมู่บ้านท่ามกลางหุบเขา

เมื่อตอนที่ข้าพเจ้าได้บอกกับเพื่อนเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาก็ยังไม่เชื่อ..."คุณแน่ใจหรือว่าเจนกับตัวคุณจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในฟาร์มได้? ... ใช่แล้ว พวกเราเห็นว่าที่นั่นเป็นสถานที่สวยงาม แต่คุณจะสามารถอยู่ที่นั่นได้หรือโดยไม่มีห้างสรรพสินค้า หรือเซเว่นอีเลเว่น และร้านค้าขายของ?”

ขอให้ลองอ่านในพระธรรมอิสยาห์ 40 ข้อ 29 - 31 ใช่แล้วพระองค์จะทรงเสริมกำลังให้...พวกเราจะเอาชนะขวากหนามเหล่านั้นไม่ว่ามันจะยากเย็นแค่ไหน ไม่ว่าจะเผชิญการทดลองมากมายจนอาจจะทำให้ไม่แน่ใจว่าจะทำเช่นไรต่อไป .... แต่พวกเราสามารถเรียกหาพระเจ้าของพวกเราให้พระองค์ทรงช่วยและเสริมกำลังและให้ความหวังแก่พวกเราใหม่ มันเป็นการยากสำหรับมนุษย์อย่างพวกเราที่จะเข้าใจพระเจ้าและแผนการของพระองค์ แต่หากว่าพวกเราต้องการที่จะรับใช้พระองค์ พวกเราก็ต้องเชื่อฟังพระองค์ แสวงหาปัญญาจากพระองค์เพื่อที่จะค้นพบพระประสงค์ของพระองค์ได้ดีมากยิ่งขึ้น 1 โครินทร์ 15 ข้อ 13 - 15.

ตอนนี้ข้าพเจ้าอยากจะแบ่งปันในเรื่องของฟาร์มมะกอกเทศ

ฟาร์มแห่งนี้เริ่มต้นจากผู้ชายคนหนึ่งที่ได้เห็นนิมิตรจากพระเจ้าเมื่อปี พ.ศ. 2546 ฟาร์มแห่งนี้ำดำเนินการในรูปแบบ Mission-Company ในตอนนี้ ทางบริษัทยังไม่สามารถทำรายได้ใดๆจากการเก็บเกี่ยวผลมะกอกเมื่อเดือนที่แล้ว (ธันวาคม) ได้เลย

เมื่อทางบริษัทสามารถที่จะทำรายได้เข้ามาในบริษัท ทางบริษัทก็จะนำรายๆเหล่านั้นมาใช้ในการสร้างอาณาจักรของพระเจ้าโดยการส่งคนพื้นที่ออกไปรับในพันธกิจของพระเจ้า ส่วนผลมะกอกทั้งหมดและพืชผักที่ได้จากการเก็บเกี่ยวนั้นเมื่อเดือนที่แล้วนั้น พวกเขาได้นำมาใช้ในพิธีขอบคุณพระเจ้าและฉลองการเก็บเกี่ยวผลแรก ในตอนนี้ที่ฟาร์มแห่งนี้มีต้นมะกอกมากกว่า 10,000 ต้น (ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพันธุ์ที่มาจากอิสราเ้อล บ้างก็มาจากออสเตรเลีย และก็จากประเทศทางแถบยุโรป) นอกจากนี้แล้ว ที่ในฟาร์มแห่งนี้ก็ยังมีข้าวสาลี ข้าวบาเล่ย์ ต้นมะเดื่อ ต้นทับทิม และนำ้ผึ้ง

ที่ฟาร์มแห่งนี้มีเนื้อที่ทั้งหมด 100 เอเคอร์ และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลที่ 2,200 ฟุต

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระเมตตาคุณและพระพรของพระองค์

พวกเราจะช่วยทางไร่ในการโปรโมตเกี่ยวกับด้านทัวร์ ด้านการจัดแคมป์ และด้านการประดิษฐ์ของชำร่วยนอกจากนี้ก็จะมีการไปสอนภาษาอังกฤษและภาษาไทยให้แก่นักเรียนที่โรงเรียน ไปเยี่ยมตามหมู่บ้านซึ่งอยู่ในละแวกเพื่อนบ้าน สอนผู้เชื่อใหม่ให้รู้เกี่ยวกับพระวจนะของพระเจ้่า และยังมีอีกหลายหน้าที่ที่รอให้ไปทำ งต้องการความช่วยเหลือในแผ่นดินของพระเจ้า ณ สถานที่แห่งนี้

พวกเราไม่ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างใดๆจากที่ฟาร์มแห่งนี้ นอกจากที่พักที่ทางฟาร์มได้จัดเตรียมไว้ให้แก่พวกเรา พวกเราเป็นอาสาสมัครในการมาช่วยเหลือที่นี่

ปัญหาของที่นี่มีในเรื่องของการเดินทาง และพวกเรากำลังอธิษฐานในเรื่องนี้อยู่ และจากที่ฟาร์มแห่งนี้ถ้าเราต้องการที่จะะเข้าไปยังหมู่บ้านเล็กๆที่ใกล้ที่สุดนั้น ก็อยู่ห่างจากที่นี่ 20 กิโลเมตร ถ้าหากว่าต้องการเข้าตัวเมืองคุณหมิง ก็ต้องเดินทางประมาณ 80 กิโลเมตร..สามารถเดินทางโดยรถโดยสารซึ่งอยู่ห่างจากฟาร์ม 20 กิโลเมตร มันเป็นการยากหากว่าเราจะต้องเข้าไปในหมู่บ้านใกล้ๆ นอกเสียแต่ว่าพวกเราจะเดินขึ้นลงเขา มีอีกทางหนึ่งที่เราจะเดินทางไปที่นั่นได้ก็คือ ขอติดรถคนงานเข้าไปในหมู่บ้านด้วยในเวลาที่พวกเขาจะเข้าไปทำธุระในหมู่บ้าน แต่เราก็ไม่สามารถที่จะรบกวนพวกเขาได้บ่อยนัก พวกเรากำลังทูลขอพระเมตตาจากพระเจ้าที่พระองค์จะประทานรถมือสองให้แก่พวกเรา และหลังจากนั้นจึงจะไปทำใบอนุญาติขับขี่

พวกเรามีวีซ่า Multiple Entry 2 ปี สามารถอยู่ได้ 60 วัน / Entry. ดังนั้น พวกเราจะต้องเข้าออกประเทศจีนทุกๆ 58 - 60 วันเพื่อประทับตราการอยู่ต่อ ฉะนั้นพวกเราจะต้องเดินทางไปยังชายแดนที่ใกล้ที่สุดของจังหวัดยูนานคือ เวียดนาม...ซึ่งต้องเดินทางจากคุณหมิงโดยรถประจำทางประมาณ 12 - 14 ชั่วโมงไปยังชายแดน ส่วนค่าใช้จ่ายตกอยู่ที่ USD 35 - 40 / คน / เที่ยว

เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองและศาสนา ข้าพเจ้าไม่สามารถที่จะอัพเดทคุณเกี่ยวกับรายงานเรื่องของพันธกิจ ข้าพเจ้าจะอัพเดทเกี่ยวกับทางด้านสังคมและกิจกรรมต่างๆ ซึ่งบางท่านอาจจะทราบว่ามีหลายๆเว๊ปไซด์รวมทั้ง Facebook, Blog และอื่นๆ ที่โดนบล๊อคโดยทางคณะรัฐบาล อีเมล์ทุกฉบับที่ส่งออกไปจะูถูกตำรวจไซเบอร์แสกนโดยผ่าน Internet Service Protocol (ISP) ซึ่งทางคณะรัฐบาลค่อนข้างระมัดระวังมากในเรื่องการคุกคามความปลอดภัยภายในพระเทศ ดังนั้นพวกเราจะต้องระมัดระวังอย่างรอบคอบเกี่ยวกับสิ่งที่จะส่มออกไป หวังว่าทุกๆท่านจะเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าอยากจะจบท้ายด้วยพระคัมภีร์ใน พระธรรมฟิลิปปี 4 ข้อ 10 - 19

"ข้าพเจ้ามีใจชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างยิ่ง เพราะว่าในที่สุดท่านก็ได้ฟื้นการระลึกถึงข้าพเจ้าอีก ท่านคิดถึงข้าพเจ้าจริงๆแต่ยังหาโอกาสไม่ได้... ถึงกระนั้นก็เป็นความกรุณาของท่าน ที่ได้ร่วมทุกข์กับข้าพเจ้า และพวกท่านชาวฟีลิปปีก็ทราบอยู่แล้วว่า การประกาศข่าวประเสริฐในเวลาเริ่มแรกนั้น มาตอนเมื่อข้าพเจ้าออกไปจากแคว้นมาซิโดเนีย ไม่มีคริสตจักรใดมีส่วนร่วมกับข้าพเจ้าในรายรับรายจ่ายเลย นอกจากพวกท่านพวกเดียวเท่านั้น... มิใช่ว่าข้าพเจ้าปรารถนาจะได้รับของให้ แต่ว่าข้าพเจ้าอยากให้ท่านได้ผลกำไรในบัญชีของท่านมากขึ้น... และพระเจ้าของข้าพเจ้าจะประทานสิ่งสารพัดที่พวกท่านขาดอยู่นั้น จากทรัพย์อันรุ่งเรืองของพระองค์ในพระเยซูคริสต์


พวกเราอยากจะเชิญชวนทุกๆท่านมาเยี่ยมชมสวนมะกอกเทศที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออก พวกท่านสามารถมาทำพันธกิจ มาพักผ่อนหย่อนใจได้

ถ้าหากว่าท่านใดสนใจ กรุณาส่งอีเมล์มาหาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะส่งรายละเอียดพร้อมประมาณค่าใช้จ่ายให้ หรือติดต่อข้าพเจ้าได้ทาง Skype (Username: macgyversteve) หรือ Chat Messengers ข้าพเจ้าสามารถนำท่านชมฟาร์มได้ผ่านทางเว็ปแคม

ขอบคุณทุกๆท่านสำหรับการอธิษฐานและการมีส่วนช่วยในการสนับสนุนในพันธกิจ

ขอถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า!

พระเจ้าอวยพร

Rev. Steve Peter H S Kok and Sister Jenny P Kok