27 ธันวาคม 2552

ช่วงเวลาแห่งคริสตมาส

ชาโลม

เนื่องในเทศกาลคริสตมาส พวกเรารู้สึกชื่นชมยินดีในการที่พระเยซูคริสต์ได้ประสูติมาบนโลกใบนี้เมื่อ 2000 ปีมาแล้ว เพื่อที่จะช่วยให้พวกเราได้รอดพ้นจากบาปของเราใช่ไหม? พระเยซูคริสต์พระองค์เท่านั้นที่ไม่เคยมีบาป พระองค์ทรงดึงพวกเราออกจากความตายนิรันดร์ไปสู่การมีชีวิตนิรันดร์โดยผ่านการชดใช้โดยพระโลหิตของพระองค์ ฮาเลลูยา...ขอบคุณพระเจ้า! พวกเราสามารถที่จะมาร่วมกันชื่นชมยินดีในพระองค์ เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงประทานของขวัญพิเศษให้กับพวกเรานั่นคือชีวิตนิรันดร์... ขอถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า!

เมื่อพวกเราได้มานั่งวิเคราะห์คำสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าได้ค้นพบข้อความตอนหนึ่งว่า มีพราห์มท่านหนึ่งได้เข้ามาถามพระพุทธเจ้า ต้องทำทานอย่างไรจึงจะรอดไปถึงนิพพานได้ และพระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า ในอนาคตข้างหน้าจะมีองค์บริสุทธิ์ผู้หนึ่งเสด็จมาเพื่อช่วยชาวโลกให้รอด อุ้งมือและเท้าของเขาจะมีรอยมนกลม ที่สีข้างของเขาจะถูกแทง และที่ศีรษะจะมีรอยตำหนิ

ลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว 500 ปี คำพยากรณ์ของพระองค์ก็สำเร็จผล เมื่อพระเยซูคริสต์ได้สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน และได้แบกรับเอาความบาปทั้งหมดของมนุษย์ไป ที่มือและเท้ามีบาดแผลรอยตะปู (ยอห์น 20 ข้อ 20) ที่สีข้างได้ถูกแทง (ยอห์น 19 ข้อ 34) ละที่ศรีษะมีรอยตำหนิจากการที่ทหารโรมันนำมงกุฎหนามมาสวมให้พระองค์ (ยอห์น 19 ข้อ 2)

น่าอัศจรรย์ใจกัข้อมูลหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับความจริงของพระเจ้า พระเยซูคริสต์ว่าพระองค์คือพระผู้ช่วยให้รอดของโลก ฮาเลลูยา!

ตอนนี้พวกเราอยากที่จะปรับปรุงข้อมูลในรายงานของพวกเรา

วันที่ 14 ธันวาคม 2552 เจนและข้าพเจ้าได้เดินทางจากเซินเจิ่นกลับมาที่กรุงเทพฯ มันเป็นการเดินทางที่ยาวนานมาก เพราะก่อนหน้านี้พวกเราต้องเดินทางจากคุณหมิงมาที่กวางเจาโดยรถไฟชั้น 3 (รถนั่ง) ใช้เวลาในการเดินทาง 25 ชั่วโมง จากนั้นพักที่กวางเจาหนึ่งคืนแล้วจึงเดินทางต่อในวันรุ่นขึ้นเพื่อไปที่เซินเจิ่น และพวกเราได้พักที่เซินเจิ่นหนึ่งคืนก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ (พวกเราซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับไปที่กวางเจาในวันที่ 7 มกราคม 2553ละจะเดินทางไปถึงคุณหมิงในวันที่ 10 หรือ 11 มกราคม)

ในสัปดาห์แรกที่กรุงเทพฯ พวกเราได้ซื้อของจำพวกอาหารแห้ง บะหมี่ และยา เพื่อเตรียมนำไปใช้ในเวลาที่พวกเราอยู่ที่ประเทศจีน... ข้าพเจ้าจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคุณหมิงให้ทุกๆท่านฟังในอีเมล์ฉบับหน้า

วันที่ 19 ธันวาคม 2552ลุ่มคริสเตียนลุมพินีได้เชื้อเชิญข้าพเจ้าให้ไปร่วมงานเฉลิมฉลองคริสตมาสที่สวนลุม ซึ่งในวันนั้นได้มีผู้มาร่วมงานจำนวน 140-150 คน และมีคริสตจักรเจ็ดแห่งด้วยกันที่มาช่วยพี่น้องกลุ่มคริสเตียนลุมพินีในการจัดงานครั้งนี้ (3 คริสตจักรในกรุงเทพฯ และ 4 คริสตจักรจากต่างจังหวัด) ผู้ปกครองของกลุ่มคริสเตียนลุมพินีได้มอบรูปภาพพระเยซูประสูติให้แก่ข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าขอรับไว้ด้วยความถ่อมใจ ขอถวายพระสิริแด่พระเจ้า!

วันที่ 20 ธันวาคม 2552 ทางคริสตจักรใจสมานางปะอินได้ชวนข้าพเจ้าให้ไปร่วมเฉลิมฉลองวันคริสตมาสด้วยกันที่คริสตจักรใจสมานบางปะอิน จังหวัดอยุธยา พวกเร้ารู้สึกอบอุ่นสำหรับการต้อนรับจากพี่น้องในพระคริสต์เมื่อเราได้เดินทางไปถึงที่นั่น พวกเราได้แบ่งปันความรักของพระเจ้าและชื่นชมยินดีในวันคริสตมาสร่วมกันกับพี่น้องสมาชิก ศิษยาภิบาล และผู้ปกครอง พวกเราได้สามัคคีธรรมร่วมกัน ร้องเพลงและเต้นรำด้วยกัน พวกเราได้รับเชิญให้ไปร่วมร้องเพลงคริสตมาสตามบ้านที่นครหลวง แต่ว่าข้าพเจ้าไม่สามารถไปร่วมได้ เพราะว่าพวกเราได้รับปากที่จะไปช่วยร้องเพลงคริสตมาสกับทางคริสตจักรที่พัทยาไปแล้วในก่อนหน้านั้น และเมื่อข้าพเจ้ากลับมาที่เมืองไทย ข้าพเจ้าก็ได้นำน้ำมันมะกอกมาจากคุณหมิงด้วย และข้าพเจ้าได้ใช้น้ำมันนั้นเจิมพี่น้องที่คริสตจักรในเพื่ออวยพรให้แก่พวกเขา และเป็นการเตือนพวกเขาด้วยว่า พระเจ้า อิมมานูเอล ได้ทรงสถิตอยู่กับพวกเราด้วยในการเฉลิมฉลองและชื่นชมยินดีร่วมกัน!

เช้าวันที่ 21 ธันวาคม 2552 พวกเราและพี่น้องอีก 8 คนจากคริสตจักรใจสมานบางปะอินได้เดินทางไปที่จังหวัดเพชรบูณ์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 380 กิโลเมตร เพื่อที่จะนำเสื้อกันหนาว เครื่องเขียน และของเล่นไปแจกจ่ายให้แก่ชาวเขาเผ่าม้ง เมื่อเราเดินทางไปถึงที่เขาค้อนั้น พวกเราก็ได้รับใช้ร่วมกันศิษยาภิบาลในพื้นที่นั้น อากาศที่นั่นหนาวเย็นมาก หลังจากที่พวกเราได้แจกจ่ายของขวัญให้แก่พวกเขาแล้ว พวกเราก็ได้มีโอกาสแบ่งปันพระวจนะของพระเจ้าให้กับพี่น้องที่นั่นด้วย และในตอนเย็นวันนั้นพวกเราก็ได้ไปร่วมงานเทศกาลปีใหม่ม้งกัน และจากนั้นพวกเราก็กลับมาที่คริสตจักรอีกครั้งเพื่อมานมัสการพระเจ้าร่วมกัน และข้าพเจ้าก็ได้ใช้น้ำมันมะกอกเจิมพี่น้องที่คริสตจักรนั้นและอวยพรพวกเขา

ในเช้าวันต่อมา พวกเราเดินทางไปที่คริสตจักรที่เข็กน้อยซึ่งเป็นคริสตจักรที่ก่อตั้งโดยมิชชันนารีจากเกาหลีกับนักเรียนจากพระคริสตธรรมศึกษา เมื่อพวกเราเดินทางไปถึง เราได้เห็นว่าพวกเด็กๆได้มารอพวกเรากันแล้ว และพวกเราได้ร่วมสนุกกับเด็กๆโดยการถามคำถามเกี่ยวกับในพระคัมภีร์ เล่นเกมส์กับเด็กๆ จากนั้นก็แจกเสื้อกันหนาว เครื่องเขียน และของเล่น

ลังจากนั้น พวกเราก็เดินทางต่อไปยังคริสตจักรบ้านน้ำขาว ที่คริสตจักรนี้ไม่มีศิษยาภิบาลมารับใช้ในคริสตจักร มีเพียงพี่น้องสมาชิกที่มาช่วยกันดูแลซึ่งกันและกัน ที่นี่พวกเราได้แจกเสื้อกันหน้าว เครื่องเขียน และของเล่นให้แก่พี่น้องและเด็กๆที่นี้ และข้าพเจ้าก็ได้ใช้น้ำมันมะกอกในการเจิมและอวยพรทุกๆคนที่นี่

ในวันที่สามซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่พวกเราจะอยู่ที่นี่ พวกเราก็ได้ไปร่วมฉลองเทศกาลปีใหม่ม้ง เล่นเกมส์ จากนั้นก็เดินทางกลับมาที่จังหวัดอยุธยา

เจนและข้าพเจ้าได้เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯเวลาตีหนึ่ง และหลังจากนั้น เวลาแปดนาฬิกา พวกเราก็ต้องเดินทางไปที่พัทยาเพื่อร่วมร้องเพลงวันคริสตมาสรอบเมืองพัทยา

พวกเราพักที่พัทยาหนึ่งคืน จากนั้นเช้าวันต่อมาก็ต้องกลับเข้ากรุงเทพฯเพื่อร่วมงานฉลองคริสตมาสของคริสตจักรใจสมานวิภาวดี

ที่นี่ เราได้จะเห็นการประกาศข่าวประเสริอยู่ทั่วๆไปตามท้องถนนในกรุงเทพฯ ตลอดเส้นทางแถวๆ Central World ไปยังประตูน้ำในวันนี้ ได้มีทีมประกาศข่าวประเสริฐมา ประกาศลำโพง บอกให้ผู้คนกลับใจจากบาป ยอมรับพระเยซู รับชีวิตนิรันดร์ เข้าสู่แผ่นดินสวรรค์ วันสิ้นยุคใกล้เข้ามาแล้ว ละบางคนก็แจกใบปลิว ซึ่งข้าพเจ้าก็ได้เข้าไปช่วยพวกเขาแจกใบปลิวด้วย

ทุกสิ่งที่พวกเราได้ทำลงไปก็เพื่อให้งานของพระองค์ทรงดำเนินต่อไปไม่หยุดยั้ง และทุกคนไม่ว่าจะมีอายุเท่าไหร่ก็สามารถที่จะทำงานนี้ได้ ในงานของพระองค์ที่พระองค์ได้ทรงเรียกให้พวกเราทำนั้น พวกเราจะสัมผัสได้ถึงความสุขอันยิ่งใหญ่ ความสันติสุข ความชื่นชมยินดีในพระองค์ พระเจ้าจะทรงหนุนกำลังของพวกเราทุกคน พวกเราขอบพระทัยพระองค์อย่างสุดใจ พวกเรารับใช้พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระองค์สถิตอยู่กับเรา และคอยปกป้องพวกเราตลอดไป

ขอให้ทุกๆท่านได้รับพระพรและความรักของพระเจ้า พระเยซูคริสต์ของเรา ฮาเลลูยา!

พระเจ้าอวยพร!

อวยพรด้วยความรักของพระคริสต์

Rev. Steve Peter H S Kok and Sister Jenny P Kok

25 ธันวาคม 2552

02 ธันวาคม 2552

พันธกิจในการรับใช้ที่คุณหมิง

ชาโลม

สรรเสริญพระเจ้า!

พวกเรารู้สึกตื่นเต้นยินดีในการที่จะอ้างถึงพระธรรมสดุดี 89 ข้อ1-2 ด้วยความปิติยินดีในองค์พระเจ้า

“ข้าพระองค์จะร้องเพลงถึงความรัก มั่นคงของพระเจ้าเป็นนิตย์ ด้วยปากของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ จะประกาศความสัตย์สุจริตของพระองค์ตลอดทุกชั่วชาติพันธุ์ ด้วยข้าพเจ้าได้กล่าวแล้วว่าความรักมั่นคงของ พระองค์จะตั้งอยู่เป็นนิตย์ พระองค์จะสถาปนาความสัตย์สุจริตของพระองค์ในฟ้าสวรรค์ทีเดียว” - สดุดี 89 ข้อ 1 - 2

ในเวลานี้ ทุกๆท่านมีความรู้สึกเช่นนี้หรือไม่?

จริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นเพียงแค่ความรู้สึกลึกๆข้างในที่จะชื่นชมยินดี แต่มันควรเป็นความรู้สึกรับผิดชอบ และโอกาสพิเศษที่ทำให้เราได้รู้เกี่ยวกับเรื่องราวความสัตย์ซื่อขององค์พระเจ้า พวกเราได้รับมอบหมายให้บอกกล่าวเรื่องราวความรักอันมากมายของพระเจ้าและความสัตย์ซื่อของพระองค์ ดังนั้น พวกเราหวังที่จะส่งผ่านเรื่องราวแห่งแสงสว่าง และความชื่นชมยินดีไปยังท่านรวมถึงคนอื่นๆด้วย.

ข้าพเจ้าได้ลงรูปภาพบางส่วนเกี่ยวกับสถานที่ที่พระเจ้าได้ทรงพาพวกเราไป มาให้ทุกๆท่านได้ชมกัน:


มันเป็นความรู้สึกพิเศษที่พวกเราได้มีโอกาสไปเยี่ยมสวนมะกอกเทศ ซึ่งตั้งอยู่ที่คุณหมิง พวกเราได้รับการแนะนำให้รู้จักสถานที่แห่งนี้โดย Rev. Canon คณะแองลิงกันจากสหราชอาณาจักร ท่านได้เดินทางมาพบกับข้าพเจ้าที่กรุงเทพฯเมื่อเดือนตุลาคม 2552 และ Bro.Canon ได้เชื้อเชิญพวกเราไปให้เยี่ยมชมสถานที่ที่คุณหมิงด้วยตาของพวกเราเอง และบางทีพวกเราอาจจะตัดสินใจที่จะรับใช้ที่นี่

ที่คุณหมิงนี้ พวกเราได้มีโอกาศพบปะพูดคุยและสามัคคีธรรมร่วมกันกับผู้จัดการสวนกับครอบครัวของเขา และBro.Canon ผู้จัดการสวนได้บอกพวกเราว่า เขาได้อธิษฐานอย่างหนักเพื่อทูลขอพระเจ้าให้ส่งคู่สามีภรรยาเหมือนเช่นพวกเรา (มาเลเซียกับไทย) มาช่วยเหลือรับใช้ในชุมชน และช่วยกันดูแลสวนนี้ และเขาบอกว่าตอนนี้คำอธิษฐานของเขาได้รับคำตอบแล้ว! ขอบคุณพระเจ้า!

ในสัปดาห์นี้ พวกเราวางแผนที่จะจัดงานฉลองขอบคุณพระเจ้าสำหรับการเก็บเกี่ยวผลมะกอกรุ่นแรกและวันคริสตมาสร่วมด้วย

ลังจากนี้ พวกเราจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ สักระยะเวลาหนึ่งเพื่อเป็นการเตรียมตัวในการที่จะอยู่ระยะยาวที่นี่ พวกเราต้องกลับไปเพื่อเตรียมของใช้ส่วนตัว ยา อาหารแห้ง และเสื้อผ้า เพื่อที่จะนำไปใช้ที่คุณหมิง พวกเราคาดว่าจะกลับไปที่สวนมะกอกเทศแห่งนี้ในสัปดาห์ที่สองของเดือนมกราคม 2553

สำหรับการเรียกที่ท้าทายในครั้งนี้ พวกเราได้ตกลงใจที่จะอยู่รับใช้ที่นี่อย่างน้อย 2 -3 ปี เพราะว่าพวกเราสามารถสัมผัสได้ถึงความสันติสุขที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ พวกเรารู้ว่าการเรียกนี้มาจากพระเจ้า และพวกเราไม่ได้รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนใดๆจากที่นี่เลย นอกจากที่พักเท่านั้นที่พวกเขาได้จัดเตรียมให้พวกเราได้พักฟรี ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆนั้นเราต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร หรือค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปในที่ต่างๆ แต่ถึงกระนั้นพวกเราก็ยังคงที่จะเดินหน้าต่อไปด้วยความเชื่อ

เพราะเราจะช่วยเจ้าให้รอดเป็นแน่ และเจ้าจะไม่ล้มลงด้วยดาบ แต่เจ้าจะมีชีวิตเป็นบำเหน็จแห่งการสงคราม เพราะเจ้าได้ไว้วางใจในเรา พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ!” - เยเรมีห์ 39 ข้อ 18

ใช่แล้วพระเจ้า เอเมน!

โปรดช่วยอธิษฐานเผื่อพวกเราด้วยในการรับใช้ที่คุณหมิงและที่ต่างๆที่พระเจ้าได้ทรงส่งพวกเราไป

ขอพระเจ้าอวยพระพรทุกๆท่าน!

Rev. Steve Peter H S Kok