19 พฤศจิกายน 2556

เป็นพระพรให้แก่กันและกัน

ชาโลม

ถึงพี่น้องในพระคริสต์

ในพระธรรมมัทธิว บทที่ 25 ข้อที่ 35 – 40 พระเยซูคริสตได้ตรัสไว้ว่า 

“… เมื่อเราหิว พวกท่านก็จัดหาให้เรากิน เรากระหายน้ำ ท่านก็ให้เราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า พวกท่านก็ต้อนรับเรา เราเปลือยกายพวกท่านก็ให้เสื้อผ้าเรานุ่งห่ม เมื่อเราเจ็บป่วยท่านก็มาดูแลเรา เมื่อเราอยู่ในคุก พวกท่านก็มาเยี่ยมเรา’ เวลานั้นบรรดาคนชอบธรรมจะกราบทูลว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้า ที่พวกข้าพระองค์เห็นพระองค์ทรงหิวและจัดให้เสวยหรือทรงกระหายน้ำ และจัดมาถวายนั้นตั้งแต่เมื่อไร? ที่พวกข้าพระองค์เห็นพระองค์ทรงเป็นแขกแปลกหน้าและได้ต้อนรับไว้ หรือเปลือยพระกายและสวมฉลองพระองค์ให้นั้นตั้งแต่เมื่อไร? ที่ข้าพระองค์เห็นพระองค์ประชวรหรือทรงถูกจำคุก และมาเฝ้าพระองค์นั้นตั้งแต่เมื่อไร?’ แล้วพระมหากษัตริย์จะตรัสตอบว่า ‘เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ซึ่งพวกท่านได้ทำกับคนใดคนหนึ่งที่เล็กน้อยที่สุดในพี่น้องของเรานี้ ก็เหมือนทำกับเราด้วย”

นี่เป็นพระคำที่พระเยซูได้ตรัสไว้ เพื่อที่จะเตือนให้เราเรียนรู้ที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งเมื่อเราได้กระทำอย่างนี้ เราก็จะได้มีส่วนร่วมในอาณาจักรสวรรค์ด้วย

มีพี่น้องคริสเตียนที่เป็นผู้ลี้ภัยบางส่วน พวกเขาได้เข้ามาที่คริสตจักรของเราตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2013 พวกเราได้มองเห็นความทุกข์ยากที่พวกเขาต้องเผชิญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง และมันเป็นเรื่องที่ไม่ปลอดภัยหากว่าใครจะนำเรื่องราวหรือเหตุการณ์เหล่านี้ไปพูดหรือนำไปแบ่งปัน แต่ถ้าหากว่าพี่น้องท่านไหนที่อยากจะทราบเรื่องราว สามารถติดต่ออีเมล์ถึงพวกเราได้ที่ faithwithyou@gmail.com.

ในอีเมล์ฉบับที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้บอกไปว่า พวกเราได้เปิดสอนภาษาอังกฤษ และภาษาไทยฟรีให้แก่พวกเขา รวมถึงให้แก่คนไทยด้วย ซึ่งนี่เป็นสิ่งเล็กน้อยที่พวกเราได้เริ่มต้นทำ

เวลานี้ คริสตจักรของเราได้รับการอนุมัติจาก “Evangelical Seminary” จากประเทศแคนนาดา ให้ทำการเปิดสอนศาสนศาสตร์ ระดับประกาศนียบัตร ซึ่งจะเริ่มเรียนในกลางเดือนมกราคม หรือ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2014 ซึ่งทางสถาบันจากประเทศแคนนาได้เป็นผู้จัดเตรียมหลักสูตรการเรียนการสอน รวมไปถึงประกาศนียบัตรที่ออกโดยสถาบันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย 

อย่างไรก็ตาม เรามีเงื่อนไขบางอย่างสำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกของคริสตจักร และเข้าร่วมนมัสการกับเราเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน หรือเป็นผู้รับใช้อาสาสมัครของคริสตจักรที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป ไม่เสียค่าใช้แต่อย่างใด แต่สำหรับผู้ที่อยู่นอกเงื่อนไข จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเรียนขั้นต่ำตามที่สถาบันกำหนด ซึ่งเมื่อจบหลักสูตรแล้ว สามารถนำไปใช้ประกอบการทำงานหรือในการรับใช้ต่อไป และสิ่งนี้จะเป็นการช่วยเพิ่มพูนความรู้ในพระคำของพระเจ้าให้แก่พี่น้องได้อีกหนทางหนึ่ง

หลักสูตรการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งพวกเราหวังว่าพี่น้องคริสเตียนไทยเองก็สามารถที่จะเปิดโอกาสให้ตนเองในการเข้ามามีส่วนร่วมในชั้นเรียน เพื่อเพิ่มพูนพระวจนะของพระเจ้า และเพิ่มพูนทักษะทางด้านภาษาอังกฤษได้อีกด้วย 

ตอนนี้พวกเรามีศาสนาจารย์อาสาสมัครสองท่านที่จะมาเป็นอาจารย์พิเศษสอน และพวกเราปรารถนาที่จะเรียนเชิญอาจารย์ท่านอื่นๆอีก เพื่อให้ท่านได้เข้ามามีส่วนร่วมในการให้ความรู้แก่พี่น้องในหลักสูตรนี้ 

ส่วนแผนการณ์ต่อไปคือ พวกเราจะจ้างพี่น้องผู้ลี้ภัยที่เป็นผู้หญิง เพื่อเข้ามาทำความสะอาดคริสตจักรสองครั้งต่อสัปดาห์ ในอัตราค่าจ้าง 200 บาทต่อวัน และช่วยทาสีภายในอาคารชั้น 3 - 5 ถ้าหากว่าผลงานเป็นที่น่าพอใจ เราจะช่วยแนะนำงานให้แก่พวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทาสี หรือทำความสะอาดบ้าน 

แผนการณ์ที่สาม พวกเราต้องการที่จะสอนงานฝีมือ อาทิเช่น ปักครอสติช ทำของชำร่วม ทำดอกไม้พลาสติก ร้อยลูกปัด ฯลฯ และพวกเราอยากจะเชิญชวนพี่น้องที่มีของประทานด้านนี้เข้ามาเป็นอาสาสมัครในการสอนงานฝีมือ รวมถึงเรื่องของการวางแผนด้านการตลาดด้วย

และสุดท้าย ข้าพเจ้าจะต้องทำการต่อวีซ่าอีก 1 ปี ซึ่งจะหมดอายุลงในเดือน ธันวาคม 2013 และข้าพเจ้าได้อธิษฐานและหวังว่าคริสตจักรจะมีค่าใช้จ่ายพอสำหรับเรื่องการทำวีซ่าของข้าพเจ้า

ขอบคุณพี่น้องสำหรับความห่วงใยและสำหรับคำอธิษฐาน

พวกเราวางแผนที่จะเฉลิมฉลองคริสตมาสล่วงหน้าในวันที่ 14 ธันวาคม 2013 ถ้าพี่น้องท่านใดที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ขอเชิญมาร่วมงานเฉลิมฉลองกับพวกเราได้

ข้างล่างนี้คือภาพสไลด์เกี่ยวกับกิจกรรมของคริสตจักร


หากพี่น้องท่านใดต้องการมีส่วนร่วมในการรับใช้พระเจ้าร่วมกัน กรุณาติดต่อพวกเรา 

ขออวยพรทุกท่านด้วยความรัก
ศจ.สตีฟ ปีเตอร์ เฮส เอส ค๊อค

08 พฤศจิกายน 2556

การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่น

ชาโลม

ทักทายพี่น้องในพระคริสต์

แต่พระเจ้าทรงสดับแน่ทีเดียว พระองค์ใส่พระทัยในเสียงอธิษฐานของข้าพเจ้า สาธุการแด่พระเจ้า เพราะว่าพระองค์ไม่ทรงปฏิเสธคำอธิษฐานของข้าพเจ้า และไม่ทรงเอาความรักมั่นคงของพระองค์ไปจากข้าพเจ้า สดุดี บทที่ 66 ข้อ 19 - 20



ข้าพเจ้าอยากจะขอบคุณพี่น้องทุกๆท่านในการอธิษฐานเผื่อเจนนี่ ภรรยาของผม คำอธิษฐานของพี่น้องเป็นพลัง และเป็นพยานถึงสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำในชีวิตของพวกเรา สรรเสริญพระเจ้า!


วันที่ 3 พฤศจิกายน 2013 เด็กๆที่คริสตจักรได้ไปส่งเจนนี่ที่โรงพยาบาล เธอได้เข้าพักรักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยรวม ซึ่งเป็นห้องเดียวกับครั้งแรก แต่คนละเตียงกัน


การผ่าตัดมีขึ้นในวันถัดไป เธอเข้าไปในห้องผ่าตัดเวลา 09.00 น. และออกจากห้องผ่าตัดเวลาประมาณ 13.15 น. ซึ่งเธอดูอาการดีขึ้นกว่าการผ่าตัดครั้งแรก

จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระยาห์เวห์ และทั้งสิ้นที่อยู่ภายในข้า จงถวายสาธุการแด่พระนามบริสุทธิ์ของพระองค์ จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระยาห์เวห์ และอย่าลืมพระราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์ ผู้ทรงอภัยความชั่วทั้งสิ้นของเจ้า ผู้ทรงรักษาโรคทั้งสิ้นของเจ้า ผู้ทรงไถ่ชีวิตของเจ้ามาจากหลุมมรณะ ผู้ทรงสวมความรักมั่นคงและพระกรุณาให้เจ้า ผู้ทรงให้เจ้าอิ่มด้วยของดี ตลอดชีวิตของเจ้า วัยหนุ่มของเจ้าจึงกลับคืนมาใหม่อย่างวัยนกอินทรี สดุดี บทที่  103 ข้อ 1 – 5

ในระหว่างการผ่าตัด ข้าพเจ้าได้อธิษฐานอ้อนวอนต่อพระเจ้า

โอ้ สาธุการแด่งองค์พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์ทรงโปรดประทานทูตสวรรค์ของพระองค์มารายล้อม และช่วยเหลือหมอในการผ่าตัดเจนนี่ในครั้งนี้ และขอให้การผ่าตัดที่จะเป็นไปด้วยดีและประสบความสำเร็จ และเธอจะกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงอีกครั้ง เอเมนสรรเสริญพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่สัตย์ซื่อของพวกเรา และพระองค์ได้ทรงทำการรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆให้หาย

เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มากที่เจนนี่ไม่มีอาการเสียงแหบ ไม่มีอาการเจ็บแผลใดๆเลย เธอสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ดีหลังจากการผ่าตัดเพียงแค่ 6 ชั่วโมง และในวันถัดมาเธอขอร้องให้ข้าพเจ้าพากเธออกไปเดินเล่นที่ตลาดนัดภายในบริเวณโรงพยาบาล ซึ่งรวมระยะทางในวันนั้นเธอเดินถึง 0.5 กิโลเมตร

คุณหมอได้ทำการตรวจวัดระดับแคลเซียมในเลือดเมื่อวันวันที่ 6 พฤศจิกายน 2013 พบว่า มีระดับแคลเซียมค่อนข้างต่ำอยู่ที่ 8.0 ซึ่งเมื่อวานนี้อยู่ที่ระดับ 8.1 ซึ่งระดับแคลเซียมปกติจะมีค่าอยู่ที่ 8.5 อย่างไรก็ตาม คุณหมอสามารถมองเห็นต่อมพาราไทรอยด์(ที่คอด้านซ้าย)ซึ่งมีขนาดเล็กมาก และไม่ได้ตัดมันทิ้งไป ซึ่งต่อมพาราไทรอยด์มีหน้าที่ในการควบคุมระดับแคลเซียมในกระแสเลือด ซึ่งหมอก็ไม่แน่ใจว่าต่อมพาราไทรอยด์ที่เหลืออยู่จะสามารถทำงานได้ดีหรือไม่ ข้าพเจ้าก็อธิษฐานขอให้ต่อมพาราไทรอยด์ทำหน้าที่ผลิตแคลเซียมในกระแสเลือดในระดับปกติ และในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2013 จากการตรวจเลือดพบว่า ระดับแคลเซียมในกระแสเลือดขึ้นมาอยู่ที่ 8.3 แล้ว

และเมื่อผลการตรวจวัดระดับแคลเซียมพบว่าดีขึ้น และไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ หมอจึงอนุญาติให้เธอออกจากโรงพยาบาลได้ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2013

ในขั้นต่อไป เจนนี่จะต้องเข้ารับการรักษาที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เพื่อรักษาอาการมะเร็ง ซึ่งตารางในการรักษามีดังนี้

- วันที่ 9 ธันวาคม 2013 นัดเจาะเลือด
- วันที่ 13 ธันวาคม 2013 นัดกลืนรังสีเพื่อเตรียมถ่ายภาพ
- วันที่ 16 ธันวาคม 2013 นัดถ่ายภาพ (แสกนร่างกายเพื่อตรวจจับเซลล์มะเร็งที่หลงเหลืออยู่)
- วันที่ 17 ธันวาคม 2013 นัดพบแพทย์
- วันที่ 18 ธันวาคม 2013 นัดนอนโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อทำการกลืนแร่รังสี ID-131 ในการรักษา
- วันที่ 21 ธันวาคม 2013 ถ่ายภาพหลังจากรับรังสีแล้ว หลังจากนั้นจึงอนุญาติให้กลับบ้านได้

ช่วงตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลไปจนกระทั่งถึงวันที่ 30/31 ธันวาคม 2013 เธอจะต้องแยกตัวออกไปจากผู้คน ไม่อนุญาติให้ใครเข้าใกล้ชิดได้

สิ่งที่จะต้องปฏิบัติในระหว่างที่รับแร่รังสี  ID-131 มีดังนี้;

- อยู่ห่างจากผู้คนและสัตว์เป็นระยะอย่างน้อย 2 เมตร
- เมื่อเข้าห้องน้ำจะต้องกดชักโครกสองครั้ง
- แยกภาชนะ ของใช้ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็น จาน ชาม ช้อน ส้อม แก้วน้ำ เสื้อผ้า ไม่ให้ปะปนกับผู้อื่น
- ต้องดื่มน้ำบ่อยๆ
- ห้ามรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของไอโอดีน อาหารทะเลต่างๆ
- ห้ามเดินทางออกนอกประเทศเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 90 วัน

การเดินทางในครั้งนี้จะเป็นการทดสอบศรัทธาของพวกเราอีกครั้ง

พระเจ้า พระองค์คือองค์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา พวกเราจะมอบความเชื่อและความไว้วางใจในพระองค์ ผู้ทรงเป็นผู้ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง และพวกเรารู้ว่าพระอจ้าทรงสถิตย์อยู่กับพวกเราตลอดเวลา

เราเชื่อและไว้วางใจในพระองค์ เอเมน

ขอบคุณพี่น้องในพระคริสต์ทุกท่านสำหรับการอธิษฐานของพวกท่าน

ขอพระเจ้าอวยพระพรทุกท่าน

ขอพระเจ้าอวยพระพรพี่น้องทุกๆท่าน 
ศจ.สตีฟ ปีเตอร์ เฮส เอส ค๊อค