10 กุมภาพันธ์ 2552

รายงานฉบับแรกจากรัฐ TAMIL NADU ประเทศอินเดีย

ชาโลม

ขณะนี้พวกเราอยู่ที่ประเทศสิงค์โปร์ เพื่อนของผม Senior Pastor (ผมมักจะคิดว่าเขาเปรียบเสมือน godfather ของผมเสมอ) ได้เสนอให้ผมพันอยู่ที่ mission house และพากพวกเราไปทานอาหารที่ Pizza Hut ซึ่งปกติแล้วเขาจะงานยุ่งตลอดเวลา แต่เขาก็พยายามจัดเวลาที่จะมาหาพวกเรา พระเจ้าทรงแสนดีเสมอต่อทุกๆคน พระองค์ทรงเตรียมแผนการต่างๆไว้ให้กับทุกๆคน



พวกเราซื้อตั๋วเครื่องบินไปลงที่ Chennai ประเทศอินเดีย ซึ่งรวมแล้วค่าตั๋วสำหรับสองคนเป็นราคา 13,000 บาท พวกเราโดยสารสายการบิน Air India Express พวกเราจะออกเดินทางในวันที่ May 5 พฤษภาคม เวลาประมาณ 10.20 pm ที่สนามบินสิงค์โปร์ เมื่อพวกเราดูที่ป้ายประกาศเขาบอกว่าอากาศที่นั่นตอนนี้ก็ประมาณ 41 องศา สำหรับตอนกลางวัน และตอนกลางคืนนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 32 องศา มันค่อนข้างร้อนมากสำหรับหน้าร้อนปีนี้



พวกเรามาถึง Chennai ประมาณ 23.30 น.(ตามเวลาของประเทศอินเดีย) ตรงกับวันเดียวกันที่เราออกเดินทาง และมันเช้าเกินไปที่จะโดยสารรถไฟ ดังนั้นพวกเราจึงนั่งรอกันที่สถานีรถไฟ มีผู้คนเยอะแยะมากมายที่โดยสารรถไฟ และมันก็ไม่ง่ายเลยที่เราจะซื้อตั๋วรถไฟ เมื่อช่องขายตั๋วเปิด พวกเขาก็บอกเราว่าให้เราไปซื้อตั๋วที่สถานีรถไฟอีกที่หนึ่ง ดังนั้นเราจึงต้องไปที่นั่น ที่นั่นมันจะเป็นช่องขายตั๋วพิเศสำหรับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ พวกเราเหนื่อยมาก และเราสามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ตอน 09.30 น. เพื่อไปที่เมือง Tirunelveli พวกเรารออยู่ที่สถานีรถไฟจนกระทั่งเวลา 21.00 น. พวกเราไม่มีทางเลือก เราได้ตั๋วรถไฟเป็นรถนั่งปรับอากาสไปลงที่เมือง ราคาตั๋วรถไฟก็ประมาณ Rs 1,000 (840 บาท) พวกเราจึงนั่งรถไฟขบวนนั้นเพราะพวกเราเหนื่อยมากและอยากจะถึงที่หมายให้เร็วที่สุด และจากเมือง Madurai พวกเราก็ต่อรถไฟอีกขบวนไปที่เมืองTirunelveli พวกเราถึงที่นั่นประมาณตีสองสี่สิบห้านาที

เมื่อพวกเราลงจากรถไฟ พวกเราก็เห็น Bro. John Jawahar Durai (pastor cum evangelist) มากับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ผมไม่เคยเจอกับเขามาก่อน และเขานั่นได้ทำงานร่วมกับ John ตอนนี้เขาเป็นผู้รับใช้บางเวลาในหน้าที่ของการขับรถ เขาได้ขับรถไปส่งพวกเราที่บ้านของ John และตอนนี้พวกเราก็ได้พักอยู่ในห้องเล็กๆของที่นั่น




วันต่อมา (วันที่ 7 พฤษภาคม) พวกเราได้รับเชิญให้ไปร่วมงานแต่งงานพร้อมกับ Bro. Ebenzer Palliah (a pastor cum evangelist + TV preacher) ที่ในเมือง ประสบการณ์ครั้งแรกของผมนั้นได้ไปร่วมงานพิธีหมั้นและแต่งานที่เมือง Kottayam เมื่อตอนที่ผมเดินทางมาอินเดียครั้งแรก และตอนนี้ก็มาที่เมือง Tirunelveli มันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นเมื่อพวกเราได้เห็นการแต่งงานเกิดขึ้น ฮาเลลูยา!



บ่ายวันต่อมาพวกเราได้ไปเยี่ยมเยียน children ministry ที่ในเมือง เด็กๆดีใจมากที่ได้เห็นพวกเรา และได้ขอให้พวกเรากลับไปเยี่ยมพวกเขาอีก ผมไม่ได้แบ่งปันพระคำของพระเจ้าแต่พวกเราร่วมสนุกสนานกับเด็กๆด้วยความรักและเอ็นดูในพวกเขา เมื่อผมได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งเขานั่นอยู่ตรงหัวมุม เขามองไม่เห็นและผมรู้ว่าเขามีผีสิงอยู่ในตัวเขามานานมาก ผมได้เข้าไปอธิษฐานให้เขาแล้วเขาก็ร้องให้ปิติยินดี เขารู้สึกว่าตาเขาเริ่มมองเห็นได้ลางๆ ขอบคุณพระเจ้า



ในตอนเย็น พวกเราไปร่วมสามัคคีธรรมที่บ้านหลังหนึ่ง และผมก็ได้เทศนาที่นั่นโดยที่ผมเองก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรแต่พระเจ้าทรงบอกผมและพระองค์ต้องการให้ผมแบ่งปันเกี่ยวกับพระบัญญัติใหญ่ของพระองค์ Bro. Ebenzer เป็นล่ามแปลเป็นภาษา Tamil ให้แก่ผม ในขณะที่ Bro. John เป็นผู้แนะนำเกี่ยวกับตัวผม มีหลายๆคนที่พระเจ้าทรงสัมผัสพวกเขาและสอนพวกเขาให้รักพระเจ้าก่อนที่จะแสดงความรักให้กับทุกๆคน

เมื่อพวกเขาขอการอธิษฐานเป็นส่วนตัว ผมได้อธิษฐานตามสิ่งที่พระเจ้าทรงนำทางผม พระเจ้าทรงสัมผัสพวกเขาแล้วเขาก็เริ่มร้องให้ เขาสัมผัสได้ว่าพระเจ้าทรงเคลื่อนไหวอย่างมาก ขอถวายพระสิริแด่องค์พระเจ้า อาเมน

คุณสามารถติดต่อผมได้ที่เบอร์มือถือใหม่หมายเลข +91 996 281 9176 ซึ่งเบอร์มือถือเก่าของผมนั้นใช้ไม่ได้แล้ว และสามารถที่จะส่ง SMS ถึงผมได้ที่เบอร์หมายเลข +6016 - 283 2038 (DiGi network) ตลอดเวลา แต่อย่าโทรเข้ามา มันเป็น roaming และจะมันชาร์จผม 70 บาทต่อนาที (เมื่อผมรับสายโทรเข้ามา)

พระเจ้าอวยพร

Pastor Steve Peter H S Kok and Sister Jenny P Kok

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น