02 มกราคม 2555

พันธกิจในประเทศแถบตะวันออกกลาง 2012

ชาโลม

ผมขอเริ่มต้นปีใหม่ 2012 แบบให้เห็นภาพ

นี่เป็นหนังสือที่เปิดออก มันเป็นหน้ากระดาษเปล่า แล้วพวกเรากำลังจะเขียนตัวหนังสือลงไป หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า “โอกาส” ซึ่งในหนังสือหน้าแรก และบทแรกของหนังสือเล่นนี้ จะเป็นเรื่องราวของการเริ่มต้นปีใหม่ ประโยคแรกที่ผมจะเขียนลงไปคือ “ฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าในวันนี้ พรุ่งนี้ และในวันต่อๆไป....” และในหน้าสุดท้าย ประโยคสุดท้ายผมจะเขียนว่า “เอเมน”

เมื่อปี 2007 ผมตอบรับการเรียกของพระเจ้าในการที่จะรับใช้ในสนามมิชชั่น ผมเริ่มต้นออกเดินทาง ประเทศแรกที่ผมมาถึงก็คือประเทศไทย แล้วต่อไปคือประเทศอินเดีย และประเทศเพื่อนบ้านไทย ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา และสุดท้ายคือประเทศจีน

ที่ประเทศไทย เมื่อตอนกลางปี 2008 ผมได้พบและแต่งงานกับภรรยาของผม “เจนนี่” หลังจากนั้นเธอก็ร่วมเดินทางออกไปรับใช้ร่วมกับผมที่ประเทศอินเดีย ซึ่งครั้งนี้เป็นการเดินทางไปประเทศอินเดียเป็นครั้งที่สองของผม

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของการรับใช้ พระเจ้าได้ทรงกระทำให้สิ่งต่างๆเป็นไปได้ ผมได้ออกไปพบปะผู้คนในประเทศต่างๆ ประกาศและแบ่งปันข่าวประเสริฐ เทศนา ช่วยเหลือในสิ่งที่ผมพอจะทำได้เพื่อสนองความต้องการทางด้านจิตวิญญาณแก่พวกเขา

เมื่อได้มองย้อนกลับไปในการเรียกของตอนปี 2007 ตอนนั้นคริสตจักรแม่ของผม (Assemblies of God, รูปแบบเพนเทคอส) ไม่ได้รับรองหรือใส่ใจอะไรในเรื่องการรับใช้ของผม แต่ผมก็ไม่กลัวและยังคงเดินหน้าต่อไป ก้าวออกมาด้วยความเชื่อทั้งๆทีไม่ได้รับการสนับสนุนการไม่ได้รับช่วยเหลือใดๆจากคริสตจักร ซึ่งก็ดูเหมือนว่ามันเป็นการกระทำที่โง่เขลาที่ผมและภรรยาออกเดินทางไปยังประเทศต่างๆ และแบ่งปันพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์กับคนแปลกหน้าที่พวกเราไม่เคยรู้จักมาก่อน และเราออกเดินทางไปโดยที่ไม่รู้จักใคร มันเป็นการกระทำของคนบ้า

แต่พวกเรายังคงยึดมั่นในพระธรรมมัทธิว 10:16 “ดูเถิด เราใช้พวกท่านไปดุจแกะอยู่ท่ามกลางหมาป่า เหตุฉะนั้นจงฉลาดเหมือนงู และไม่มีภัยเหมือนนกพิราบ

องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงจัดเตรียมสิ่งต่างๆและปกป้องคุ้มครองพวกเราตลอดการเดินทาง-ปฐมกาล 28:20 "ถ้าพระเจ้าทรงอยู่กับข้าพระองค์ ทรงพิทักษ์รักษาในทางที่ข้าพระองค์ไป ประทานอาหารให้ข้าพระองค์รับประทาน และเสื้อผ้าให้ข้าพระองค์สวม"

มันเป็นการดีถ้าหากว่าเราสามารถจดจำพระดำรัส และพระสัญญาที่พระองค์ได้ประทานไว้ให้กับพวกเราซึ่งอยู่ในเฉลยธรรมบัญญัติ 30:16 “คือในการที่ข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้ ให้รักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ให้ดำเนินในพระมรรคาทั้งหลายของพระองค์และให้รักษาพระบัญญัติและกฎเกณฑ์และกฎหมายของพระองค์ แล้วท่านจะมีชีวิตอยู่และทวีมากขึ้นและพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน จะอำนวยพระพรแก่ท่านในแผ่นดินซึ่งท่านเข้าไปยึดครองนั้น"

ดังนั้น ผมและภรรยาได้ดำเนินชีวิตอยู่ด้วยการเชื่อฟังพระดำรัสและพระสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้า และทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นที่ถวายพระเกียรติแด่พระองค์

พวกเราได้เดินทางกลับมาประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2010 และได้อยู่รับใช้ที่นี่จนกระทั่งถึงเวลาของการเรียกครั้งต่อไป

ตอนนี้ พระเจ้าได้ประตูให้สำหรับพวกเรา....คือการออกไปรับใช้ที่ภาคเหนือของประเทศอิรัก มันเป็นโอกาสที่ดี และเป็นการท้าท้ายมาก.... คือผู้ใดเล่าที่เราควรจะส่งเขาไป องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส.... แต่พวกเรากล้าที่จะไป พระเจ้า ถ้าพระองค์ประสงค์ที่จะส่งพวกเราไปที่นั่น

อีกครั้งหนึ่ง พวกเราจะพูดถึงความกล้าหาญในการที่จะก้าวออกไปด้วยความเชื่อกับเงินทองที่มีอยู่เพียงแค่เล็กน้อย เดินหน้าออกไปยังประเทศอิรัก เคอร์ดิสถาน (ภาคเหนือของอิรัก) ผมเองก็ไม่แน่ใช่เช่นกันว่าทำไมผมถึงจำเป็นที่จะต้องไปที่นั่น แต่ผมสามารถสัมผัสได้ว่าพระเจ้าทรงตรัสกับผมและทรงเรียกผมให้ไปรับใช้พี่น้องที่นั่นสักระยะหนึ่ง

เจนนี่ ภรรยาของผมจะร่วมเดินทางไปกับผมด้วย ผมรู้ว่าสถานการณ์บ้านเมืองของประเทศอิรักยังไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ มีรายงานเรื่องความรุนแรกเกิดขึ้นตั้งแต่สงครามระหว่างสหรัฐ-อิรัก และคริสตจักรต่างๆของที่นั่นก็ตกเป็นเป้าหมายของการวางระเบิดไปด้วย

นี่เป็นเรื่องท้าทายในการทดสอบความเชื่อของพวกเรา และพวกเราเชื่อและไว้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่าพระองค์จะทรงปกป้องพวกเราในการเดินทางไปรับใช้ที่นั่น

เมื่อตอนช่วงต้นเดือนธันวาคม 2011 พวกเราได้เดินทางไปที่สถานทูตตุรกี ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่อยายามที่จะขอวีซ่า Multiple Entry (เข้าออกหลายครั้ง) สำหรับหนึ่งปีให้แก่ภรรยาของผม แต่เจ้าหน้าที่กงศุลบอกว่า เขาจะต้องส่งเอกสารการขอวีซ่ากลับไปยังสถานกงศุลที่ประเทศตุรกีก่อน เพื่อให้ทางโน้นเซ็นต์อนุมัติมาจึงจะสามารถออกวีซ่าให้ได้ และจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการนาน 1-2 เดือน ซึ่งผเองก็เกรงว่าวีซ่าของเธอจะได้รับการปฏิเสธ และผมจะต้องเดินทางไปประเทศตุรกีเพียงลำพังโดยปล่อยให้เธออยู่ที่กรุงเทพฯคนเดียว เพราะว่าสำหรับผมแล้ว ผมไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศตุรกี

เมื่อพวกเรากลับไปยัง ประเทศมาเลเซีย เป็นเวลาหกวัน ผมก็ได้ลองไปที่สถานทูตตุรกี ในกัวลาลัมเปอร์อีกครั้ง ผมได้คุยกับเจ้าหน้าที่กงศุลเป็นระยะเวลานานพอสมควร พวกเขาบอกว่าภรรยาของผมเป็นคนไทย และเธอควรจะไปขอวีซ่าที่กรุงเทพฯ เพราะที่นี่ก็มีกฏระเบียบเดียวกันในการออกวีซ่า แล้วผมก็ได้บอกกับเขาไปว่า ผมได้พยายามไปขอวีซ่าที่สถานทูตในกรุงเทพฯแล้ว และทางโน้นไม่ยอมช่วยเหลือผม ผมต้องการให้ภรรยาของผมเดินทางไปด้วยกัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กงศุลท่านหนึ่งก็เดินออกไปคุยกับท่านทูต แล้วเขาก็กลับมาบอกว่า “ตกลงว่าทางเราจะช่วยคุณ คือจะอนุมัติวีซ่า Multiple Entry สำหรับหนึ่งปีให้กับภรรยาของคุณ ซึ่งเธอจะสามารถอยู่ได้ครั้งละ 90 วัน” ขอบคุณพระเจ้า!

พวกเราจะออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองอิสตันบลู ในวันที่ 29 มกราคม 2010 โดยสายการบินที่ราคาถูกที่สุดเท่าที่เราจะหาได้ โดยซื้อตั๋วไปเที่ยวเดียว พวกเราเองก็ไม่แน่ใจว่าเราจะมีค่าใช้จ่ายเพียงพอในการที่จะซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมาหรือไม่ ซึ่งการเดินทางเข้าประเทศอิรักโดยผ่านทางชายแดนของประเทศตุรกีนั้นจะทำได้ง่ายกว่าการเดินทางเข้าทางชายแดนของประเทศซีเรีย หรือเลบานอน หรืออิหร่าน หรือจอร์แดน

ในระหว่างที่พวกเราอยู่ที่ประเทศตุรกี พวกเราจะพยายามส่งข่าวมายังท่านให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนของประเทศอิรัก พวกเราหวังว่าจะเดินทางไปถึงยัง ประเทศอิรัก เคอร์ดิสถาน ในเดือนมีนาคม 2012

ในภาคเหนือของประเทศอิรักนั้น มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของอารยธรรมเริ่มต้น อยู่ในหนังสือปฐมกาล 10:11-12 จากที่นั่น เขาไปอัสซีเรีย สร้างเมืองนีนะเวห์ เรโหโบทอีร์ คาลาห์ และเรเสนตั้งอยู่ระหว่างนีนะเวห์และคาลาห์นครใหญ่นั้น

อีกเรื่องที่น่าสนใจที่จะแจ้งให้ทราบว่า สวนเอเดนอยู่ใกล้ที่นั่น ขอให้เปิดดูในหนังสือปฐมกาล 2:10-14 มีแม่น้ำสายหนึ่งไหลจากเอเดนรดสวนนั้นจากที่นั่นก็แยกออกเป็นสี่สายชื่อแม่น้ำสายที่หนึ่งคือปิโชนเป็นแม่น้ำที่ไหลรอบแผ่นดินฮาวิลาห์ที่นั่นมีแร่ทองคำทองคำที่เมืองนั้นเป็นทองคำเนื้อดีและมียางไม้ตะคร้ำและโมรา ชื่อแม่น้ำสายที่สองคือกิโฮน ไหลรอบแผ่นดินคูช ชื่อแม่น้ำสายที่สามคือไทกริส ไหลไปทางทิศตะวันออกของเมืองอัสซีเรีย และแม่น้ำสายที่สี่ชื่อยูเฟรติส

มีเพิ่มเติมในหนังสือดาเนียล 10:4-6 เมื่อวันที่ยี่สิบสี่เดือนต้น ข้าพเจ้ายืนอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำไทกริส ข้าพเจ้าแหงนขึ้นมอง ดูเถิดมีชายคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าป่านมีทองเมืองอุฟาสคาดเอวไว้ ร่างกายของท่านดั่งเพทาย และหน้าของท่านก็เหมือนฟ้าแลบ ดวงตาของท่านก็เหมือนกับคบเปลวเพลิง แขนและเท้าเป็นเงางามเหมือนกับทองสัมฤทธิ์ขัด และเสียงถ้อยคำของท่านเหมือนเสียงมวลชน

เนื่องจากว่าช่วงนี้เป็นวันหยุดคริสมาสต์และวันปีใหม่ ดังนั้นจึงต้องใช้ระยะเวลานานในการที่จะติดต่อหน่วยงานมิชชันที่เกี่ยวข้องที่นั่น ซึ่งผมได้เคยติดต่อไปแล้ว และทางโน้นได้ตอบรับกลับมาว่าให้ผมไปรับใช้ในประเทศอิรัก เคอร์ดิสถาน และเมืองไคโร ประเทศอียิปต์

ข้างล่างนี้เป็นรายงานทางด้านการเงินของพวกเรา

ถ้าหากว่าพวกเรามีพระเยซูคริสต์สถิตอยู่ด้วย ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้

ขอพระเจ้าทรงประทานความหวังใจ และพรปีใหม่ให้แก่พี่น้องทุกๆท่านในการรับใช้พระองค์

พระเจ้าอวยพระพร

ศจ.สตีฟ ปีเตอร์ เฮส เอส ค๊อค

** มันจะช่วยพวกเราได้มาก ถ้าหากว่ามีพี่น้องท่านไหนพอที่จะรู้จักใครที่อาศัยอยู่ในประเทศตุรกีบ้าง เพราะว่านี่เป็นการเดินทางครั้งแรกของพวกเรา ซึ่งจะสามารถช่วยพวกเราได้มากในการหาที่พักอาศัยราคาถูกที่นั่น**

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น