ข้อความสำคัญของพระคัมภีร์บทนี้คือ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และในสิ่งที่เป็นความตรงกันข้ามกันนี้ก็คือ ความแตกแยก
พระเยซูคริสต์ต้องการให้ทุกคนเชื่อฟัง และกระทำตาม เพื่อที่พวกเราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ตอนนี้ร่างกายของพระคริสต์ได้เป็นหนึ่งเดียวกันกับพระบิดาและพระวิญญาณแล้ว และทั้งสามรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นพระเจ้าเดียวกัน ดังนั้นคริสเตียนจึงจำเป็นที่จะต้องเป็นหนึ่งเดียวกันทั่วโลก
ดังนั้น ในความเป็นหนึ่งเดียวกันของเราก็คือ ต้องมีหลักคำสอนของพระเจ้าเป็นจุดศูนย์กลาง เรามีพระเจ้าเดียว ศรัทธาเดียว และบัพติศมาเดียว ตอนนี้ให้คุณพิจารณาดูร่างกายและวิญญาณที่อยู่ภายในของคุณ เมื่อคุณยังคงมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ คุณสามารถแยกส่วนต่างๆออกจากร่างกายได้หรือไม่ และคุณสามารถแยกวิญญาณของจากร่างกายเมื่อคุณยังมีชีวิตอยู่ได้หรือไม่ ไม่แน่นอน! ดังนั้นคำสอนที่สำคัญสำหรับเราในเวลานี้คือ พระกายของพระคริสต์นั้นจะต้องเป็นหนึ่งเดียวเสมอ มีเพียงร่างกายเดียว และต้องไม่แตกแยก
จำไว้ว่าเราต้องเข้มแข็ง เราต้องแสวงหาพระเจ้าของเรา มีศรัทธา และมุ่งจุดหมายไปที่แสงสว่างของพระคริสต์ พวกเราจำเป็นจะต้องคุยกับพระเจ้า ไม่เพียงแค่การนมัสการเท่านั้น แต่เราต้องอธิษฐานเป็นการส่วนตัวด้วย ซึ่งเราสามารถทำได้ทุกๆที่ และทุกๆเวลา เราต้องค้นหาพระเจ้าของเราตลอดเวลา
ส่วนที่สองของรายงานของสิ้นเดือนกันยายน 2551

เจนและผมได้ไปที่จังหวัดศรีสะเกษในวันหยุดที่ผ่านมา เพื่อที่จะเยี่ยนเยียนและสามัคคีธรรมร่วมกับครอบครัวของ Bro.Mathaikutty(ศาสตราจารย์) พวกเขาพักอยู่ที่บ้านพักครูของโรงเรียนประจำจังหวัด และพวกเราเล่นบาสเก็ตบอลกับเด็กนักเรียนที่นั่นด้วย พวกเราได้ดูวีดีโอซีดีเกี่ยวกับเรื่องของ โมเสส และซาโลมอนด้วยกัน มันไม่ง่ายเลยสำหรับพวกเขาซึ่งเป็นคนอินเดียที่จะพยายามปรับตัวให้เข้ากับคนที่นี่ได้ ก็ขอฝากครอบครัวนี้ไว้ในการอธิษฐานด้วย
วันอาทิตย์นี้ผมจะไปเทศนาที่คริสตจักรนวนคร ที่นั่นเป็นโบสถ์เล็กๆ และก็เหมือนทุกครั้ง เจนจะเป็นล่ามแปลคำเทศนาเป็นภาษาไทยให้แก่ผม
วันที่ 13 ตุลาคมนี้ ผมจะไปประเทศกัมพูชาประมาณหนึ่งสัปดาห์เพื่อกระทำภาระกิจสั้นๆที่นั่นตามโครงการข้างล่างนี้ ด้วยว่าผมมีงบประมาณที่จำกัด
1. เพื่อแบ่งปันคำสอนของพระเยซูคริสต์กับผู้อื่นในระหว่างการเดินทาง
2. เผยแพร่พระกิตติคุณตามหมู่บ้านเท่าที่สามารถจะทำได้
3. ร่วมงานกับคณะของมิชชันนารีที่นั่น
4. เทศนาในโบสถ์หรือในกลุ่มเมื่อได้รับเชิญ
5. พบกับพี่น้องคริสเตียนที่เป็นชาวมาเลย์เซียแต่อาศัยอยู่ที่กรุงพนมเปญ
2. เผยแพร่พระกิตติคุณตามหมู่บ้านเท่าที่สามารถจะทำได้
3. ร่วมงานกับคณะของมิชชันนารีที่นั่น
4. เทศนาในโบสถ์หรือในกลุ่มเมื่อได้รับเชิญ
5. พบกับพี่น้องคริสเตียนที่เป็นชาวมาเลย์เซียแต่อาศัยอยู่ที่กรุงพนมเปญ
ในช่วงเดือนธันวาคม ผมและศิษยาภิบาลอีกสองท่านได้วางแผนกันว่าจะไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยประมาณหนึ่งสัปดาห์เพื่อที่จะเผยแพร่พระกิตติคุณและแบ่งปันข่าวประเสริฐให้กับคนในท้องถิ่นของที่นั่น
ผมยังคงระลึกถึงพระคำของพระเยซูในการทรงเรียกสาวกเสมอ ซึ่งอยู่ในพระธรรมลูกา 9:1-5 "พระองค์ทรงเรียกสาวกสิบสองคนมาพร้อมกัน แล้วก็ประทานให้เขามีอำนาจเหนือผีทั้งปวง และรักษาโรคต่างๆให้หาย แล้วพระองค์ทรงใช้เขาไปประกาศแผ่นดินของพระเจ้า และรักษาคนเจ็บให้หาย พระองค์จึงสั่งเขาว่า 'อย่าเอาอะไรไปใช้ตามทาง เช่นไม้เท้า หรือย่าม หรืออาหาร หรือเงิน หรือเสื้อ และถ้าเข้าไปในเรือนไหน ก็จงอาศัอยู่ในเรือนนั้นจนกว่าจะไป ผู้ใดไม่ต้อนรับพวกท่าน เมื่อท่านจะไปจากเมืองนั้น จงสะบัดผงคลีดินจากเท้าของท่านออก ส่อให้เห็นความผิดของเขา' "
ผมขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณทุกๆท่านที่ได้ให้การสนับสนุนผมจนถึงวันนี้ และผมก็ยังคงอธิษฐานต่อไปว่า พวกคุณจะยังคงสนับสนุนในพันธกิจของผมต่อไป ขอพระเจ้าอวยพระพรคุณตลอดไป
ก่อนที่จะจบนี้ ผมขออ้างอิงพระคัมภีร์ในพระธรรมฟิลิปปี 4:10-19 "ข้าพเจ้ามีใจชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างยิ่ง เพราะว่าในที่สุดท่านก็ได้ฟื้นการระลึกถึงข้าพเจ้าอีก ท่านคิดถึงข้าพเจ้าจริงๆ แต่ยังหาโอกาสไม่ได้.... ถึงกระนั้นก็เป็นความกรุณาของท่าน ทีได้ร่วมทุกข์กับข้าพเจ้า และพวกท่านชาวฟิลิปปีก็ทราบอยู่แล้วว่า การปะกาศข่าวเสริฐในเวลาเริ่มแรกนั้น มาตอนเมื่อข้าพเจ้าออกไปจากแคว้นมาซิโดเนีย ไม่มีคริสตจักรใดมีส่วนร่วมกับข้าพเจ้าในรายรับรายจ่ายเลย นอกจากพวกท่านพวกเดียวเท่านั้น... มิใช่ว่าข้าพเจ้าปรารถนาจะได้รับของให้ แต่ว่าข้าพเจ้าอยากให้ท่านได้ผลกำไรในบัญชีของท่านมากขึ้น... ข้าพเจ้าก็อิ่มอยู่เพราะได้รับของจากเอปาโฟรดิทัส... และพระเจ้าของข้าพเจ้าจะประทานสิ่งสารพัดที่พวกท่านขาดอยู่นั้น จากทรัพย์อันรุ่งเรืองของพระองค์ในพระเยซูคริสต์"
ขอพระเจ้าอวยพร
Pastor Steve Peter Kok
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น